วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ระบบภารกิจ

• แนะนำระบบภารกิจ
ระบบเควสท์สุดท้าทายที่ได้เพิ่มเติมเข้าในเกมออนไลน์สไตล์ FPS อย่าง POINT BLANK : RELOADED มันคือการให้ผู้เล่นรับภารกิจที่ต้องการและเคลียร์ผ่านเงื่อนไขเหล่านั้นจน ครบเพื่อรับของรางวัลตอบแทน ซึ่งจะมีผลต่อการได้รับเหรียญตราสำหรับการปลดล็อคฉายาของตัวละครด้วย

• บัตรภารกิจ
ในการเริ่มทำภารกิจภายในเกมผู้เล่นจะต้องมีบัตรภารกิจเสียก่อนโดยจะแบ่ง ออกเป็น 10 แบบตามตัวอักษรของชื่อเกมคือ "P, O, I, N1, T, B, L, A, N2, K" เราสามารถเลือกทำตัวไหนก่อนหรือหลังก็ได้ตามความต้องการ แต่จะมีบางบัตรภารกิจที่ต้องทำไปตามลำดับของตัวอักษร  สิ่งสำคัญในการทำภารกิจคือแม้ว่าเราจะทำภารกิจที่ได้รับมาเสร็จครบหมดแล้ว หากเราออกจากห้องแข่งขันก่อนที่การแข่งจะจบลง หรือหลุดออกจากการแข่งขัน ภารกิจที่ทำไปจะถือว่าล้มเหลวทั้งหมด

• การซื้อบัตรภารกิจ
ให้เข้ามาที่หน้าของภารกิจ จากนั้นเลือกไปที่ภารกิจที่ต้องการจะซื้อบัตร โดยประเภทของภารกิจนั้นจะแตกต่างกันออกไป บางภารกิจจะทำได้เฉพาะบางโหมดการเล่นหรือเฉพาะฝ่ายดังนั้นผู้เล่นเมื่อรับ บัตรภารกิจชนิดไหนไปแล้วก็ต้องเลือกโหมดการเล่นให้ตรงกับภารกิจที่ได้รับ ด้วย

• ประเภทบัตรภารกิจและรางวัล
บัตรภารกิจฝึกหัด

ไอเทมรางวัล : Desert Eagle S
EXP ที่ได้รับ : 1,200 EXP
ราคาซื้อ : -
 บัตรภารกิจตีฝ่า

ไอเทมรางวัล : เหรียญกล้าหาญมาสเตอร์ตีฝ่า
EXP ที่ได้รับ : 2,050 EXP
ราคาซื้อ : 5,000 Point
บัตรภารกิจสนับสนุน

ไอเทมรางวัล : เหรียญกล้าหาญสำหรับมาสเตอร์สนับสนุน
EXP ที่ได้รับ : 2,050 EXP
ราคาซื้อ : 5,000 Point
บัตรภารกิจแทรกซึม

ไอเทมรางวัล : เหรียญกล้าหาญมาสเตอร์แทรกซึม
EXP ที่ได้รับ : 2,050 EXP
ราคาซื้อ : 5,000 Point
บัตรภารกิจจู่โจมพิเศษ

ไอเทมรางวัล : เหรียญกล้าหาญมาสเตอร์จู่โจมพิเศษ
EXP ที่ได้รับ : 2,130 EXP
ราคาซื้อ : 5,400 Point
บัตรภารกิจเดฟคอน

ไอเทมรางวัล : เหรียญกล้าหาญมาสเตอร์เดฟคอน
EXP ที่ได้รับ : 2,200 EXP
ราคาซื้อ : 5,800 Point
บัตรภารกิจสัญญาบัตร

ไอเทมรางวัล : เหรียญกล้าหาญมาสเตอร์แทรกซึม
EXP ที่ได้รับ : 3,000 EXP
ราคาซื้อ : 8,300 Point
บัตรภารกิจนายร้อย

ไอเทมรางวัล : เหรียญกล้าหาญมาสเตอร์จู่โจมพิเศษ
EXP ที่ได้รับ : 4,000 EXP
ราคาซื้อ : 11,000 Point
บัตรภารกิจนายพัน

ไอเทมรางวัล : เหรียญกล้าหาญมาสเตอร์เดฟคอน
EXP ที่ได้รับ : 5,000 EXP
ราคาซื้อ : 14,000 Point

เรียนรู้การตั้งค่าเกี่ยวกับ Mouse อุปกรณ์คู่กายสาวก FPS

เรียนรู้การตั้งค่าเกี่ยวกับ Mouse อุปกรณ์คู่กายสาวก FPS

view 65629
สำหรับคนเล่น FPS ทั้งหลายคงเป็นที่ทราบกันดีว่าอุปกรณ์ในการเล่นอย่าง Mouse ที่เป็นเมื่ออาวุธของเรานั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก ซึ่งในหลายค่ายก็มีการออกแบบพัฒนา Mouse รุ่นใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตอนนี้มันเป็นมากกว่าสิ่งที่ใช้สำหรับการคลิกซ้ายคลิกขวาธรรมดาไปเสีย แล้ว เพราะในบางรุ่นนั้นมีฟังก์ชั่นแลการตั้งค่ารายละเอียดต่างๆ มากมาย ซึ่งในครั้งนี้เราจะมานำเสนอเรื่องราวและค่าต่างๆ เกี่ยวกกับ Mouse ให้ได้ทราบกัน


1. ค่า cpi หรือ dpi
cpi ย่อมาจาก count per inch หมายถึง จำนวนครั้งที่เซ็นเซอร์ของเมาส์ นับได้จากการเลื่อนเมาส์เป็นระยะ 1 นิ้ว โดยทั่วไปจะนับ 1 จุดเม็ดสีบนหน้าจอ (pixel) ต่อ 1 ครั้ง ดังนั้น cpi จึงมีความหมายเหมือนกับ dpi ที่ย่อมาจาก dot per inch ซึ่งหมายถึง จำนวนจุด (pixel) ที่เมาส์เคลื่อนที่ได้บนหน้าจอ ต่อการขยับเมาส์เป็นระยะ 1 นิ้ว

ดัง นั้นยิ่งเมาส์มีค่า dpi หรือ cpi สูง ยิ่งสามารถเคลื่อนที่ตัวชี้เป้าในจอคอมพิวเตอร์ ไปได้ระยะไกลจากการลากเมาส์เพียงเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น หากหน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณมีความละเอียด 1024 x 768 และเมาส์ของคุณมีค่า dpi เท่ากับ 1,000 คุณจะสามารถเลื่อนตัวชี้เมาส์จากซ้ายสุดจอ ไปยังขวาสุดจอ ด้วยการลากเมาส์เป็นระยะ 1 นิ้วเท่านั้น แต่ถ้าเมาส์ของคุณมีค่า dpi เท่ากับ 500 คุณจะต้องเลื่อนเมาส์เป็นระยะ 2 นิ้ว จึงจะสามารถเคลื่อนตัวชี้เมาส์จากซ้ายสุดไปยังขวาสุดได้

เมาส์ที่มี ค่า dpi สูงจึงเหมาะสำหรับการใช้เล่นเกมแนว FPS (First Person Shooting) ที่ต้องใช้ความรวดเร็วในการขยับตัวชี้เป้า ไปยังเป้าหมายหรือศัตรู เพียงแค่ขยับเมาส์ในระยะสั้นๆ นอกจากนี้เมาส์ที่มีค่า dpi ที่สูงยังช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องขยับมือไป-มาเป็นระยะไกล ในการทำงานที่มีระยะเวลายาวนาน ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้คุณได้ไม่น้อยทีเดียว


2. ค่า Polling rate
ในการใช้งานเมาส์ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนที่ในแนวแกน X หรือ Y (แนวนอน หรือแนวตั้ง) หรือการกดปุ่มใดๆ บนเมาส์ จะมีการรายงานค่าสู่คอมพิวเตอร์ ซึ่งเมาส์โดยทั่วไปจะรายงาน 125 ครั้งต่อวินาที (คิดเป็น 1 ครั้งในทุกๆ 8 มิลลิวินาที)จำนวนครั้งในการรายงานต่อ 1 วินาทีนี้ จึงเรียกว่า polling rate ซึ่งมีหน่วยเป็น Hertz (Hz)

ค่า polling rate นี้บางครั้งอาจเรียกว่า report  (รายงาน) ตัวอย่างเช่น หากเมาส์ของคุณรายงานไปยังคอมพิวเตอร์เพียง 1 ครั้งในทุก 1 วินาที จะหมายความว่า เมาส์ของคุณมีค่า polling rate เท่ากับ 1 Hz ทั้งนี้ยิ่งค่า polling rate สูงยิ่งหมายถึงจำนวนครั้งที่เพิ่มขึ้นที่เมาส์ของคุณรายงานต่อคอมพิวเตอร์ ยิ่งทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณสามารถตอบสนองต่อการใช้งานเมาส์เร็วยิ่งขึ้น

สำหรับ เมาส์ทั่วไปที่มีค่า polling rate เท่ากับ 125 Hz จะสามารถใช้งานกับคอมพิวเตอร์ได้ตามปกติ ซึ่งจะไม่มีอาการล่าช้าให้เห็น แต่สำหรับการเล่นเกมที่ต้องใช้ความเร็ว อย่างเกมแนว FPS หรือ RTS ค่า polling rate ในระดับ 125 Hz จะไม่เพียงพอ ซึ่งจะรู้สึกได้ว่าตัวชี้เมาส์ช้า ไม่ตอบสนองต่อการขยับเมาส์ (ขยับเมาส์ไปแล้ว ตัวชี้เป้าไม่ไปตาม) ซึ่งจะส่งผลต่อการเล่นเกมอย่างชัดเจน เมาส์สำหรับเกมในปัจจุบันจึงมีค่า polling rate ที่สูงกว่า 500 Hz


3. ค่า Frame per second
ในการจับการเคลื่อนไหวของเมาส์ เพื่อแปลงเป็นข้อมูลส่งให้แก่คอมพิวเตอร์นั้น โดยทั่วไปออฟติคเมาส์ และเลเซอร์เมาส์จะยิงแสงไปยังพื้นผิวที่เมาส์สัมผัส แล้วสะท้อนกลับมายังเซนเซอร์ของเมาส์ กระบวนการนี้จะสร้างภาพเก็บไว้ในตัวเซนเซอร์ ค่า Frame per second จึงหมายถึงจำนวนภาพที่เซนเซอร์สามารถรับได้ในเวลา 1 วินาที ซึ่งเซนเซอร์จะใช้คำนวนตำแหน่ง ความเร็ว และทิศทาง

ยิ่งค่า FPS (frame per second) สูง เมาส์ยิ่งมีความถูกต้องแม่นยำเพิ่ม จากจำนวนภาพที่เซนเซอร์สามารถรับได้ เพื่อประมวลผล และส่งไปยังคอมพิวเตอร์ นักเล่นเกมที่ต้องการความแม่นยำสูง จึงต้องการเมาส์ที่มีค่า FPS สูงด้วย


4. ค่า Lift distance
ในการใช้งานเมาส์ บางครั้งจำเป็นต้องยกเมาส์ขึ้นเพื่อจัดตำแหน่งที่ถนัดในการใช้งาน แต่การยกขึ้นในบางครั้งอาจทำให้ตัวชี้เมาส์ขยับตามไปด้วย ทำให้ตำแหน่งเดิมคาดเคลื่อนไป เมาส์บางรุ่นจึงสามารถหยุดการประมวลผลของตัวเซนเซอร์ เมื่อยกเมาส์ขึ้นในระยะที่ต่างๆ กัน ตัวอย่างเช่น หากเมาส์ของคุณมีค่า lift distance 1 มิลลิเมตร ตัวชี้เมาส์ของคุณบนหน้าจอ จะหยุดเคลื่อนที่เมื่อคุณยกเมาส์ขึ้นจากพื้นผิวเป็นระยะมากกว่า 1 มิลลิเมตร

สำหรับ เมาส์ที่มีค่า lift distance ที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนท่าทางในการขยับเมาส์ได้ โดยที่ไม่เสียตำแหน่งเดิมของตัวชี้เมาส์ (ตัวชี้เมาส์จะไม่ขยับตาม เวลาคุณยกเมาส์ขึ้น)

5. ค่า Acceleration
ค่าความเร่ง หมายถึงอัตราการเปลี่ยนแปลงความเร็วต่อวินาที ที่เมาส์เคลื่อนที่จากจุดหนึ่งสู่จุดหนึ่ง เมื่อใดก็ตามที่คุณเคลื่อนไหว
เมาส์เร็วด้วยความเร่งที่มากกว่าความเร่งของเมาส์ ตัวเซนเซอร์ของเมาส์จะไม่สามารถจับความเคลื่อนไหวได้ทัน และส่งผลให้ตัว
ชี้เป้าในจอไม่สามารถเคลื่อนไปตามการเคลื่อนไหวของเมาส์

ค่าความเร่ง วัดด้วยหน่วย "g" (ตามค่าความเร่งตามแรงโน้มถ่วงโลก) ซึ่งมีค่าเท่ากับ 9.8 เมตรต่อวินาทียกกำลังสอง การเคลื่อนที่
เมาส์ ด้วยความเร่งมากกว่าค่าดังกล่าว ส่งผลให้เซนเซอร์หลงทาง นักเล่นเกมที่ต้องเคลื่อนไหวเมาส์ด้วยความเร่งสูง จึงต้องการเมาส์ที่มีค่า g สูงด้วย ซึ่งเมาส์สำหรับเล่นเกมโดยทั่วไปในปัจจุบันมีค่าประมาณ 20 g


6. ค่า Inch per sec
Inch per sec (IPS) เป็นค่าความเร็วสูงสุดที่เมาส์สามารถเคลื่อนที่บนพื้นผิวได้ ก่อนที่จะสูญเสียความถูกต้องในการประมวลผล
มี หน่วยเป็นนิ้วต่อวินาที โดยเมื่อเมาส์เคลื่อนที่เร็วกว่าค่า IPS ของเมาส์ ตัวชี้เป้าที่เคลื่อนที่ในจอ จะไม่สามารถเคลื่อนไปได้ถูกต้อง
ตามการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งาน

ด้วยค่า IPS ที่สูง เป็นการรับประกันว่า ไม่ว่าคุณจะเคลื่อนที่เมาส์ด้วยความเร็วอย่างไร ตัวชี้เป้าของเมาส์จะยังคงเคลื่อนที่ในจอได้
ถูกต้องแม่นยำตามการเคลื่อนไหวของคุณ ทั้งนี้ค่า IPS ของเมาส์สำหรับเล่นเกมทั่วไปจะมีค่าประมาณ 150 นิ้วต่อวินาที

7. On-the-fly Sensitivity
เพื่อให้คุณสามารถปรับความไวของเมาส์ได้ระหว่างเล่นเกม เมาส์บางรุ่นจึงมี On-the-fly sensitivity ทีสามารถเปลี่ยนค่าความไวระหว่างเล่นเกมได้ด้วยการกดปุ่ม on-the-fly แล้วปรับค่า dpi ทีละเสต็ปด้วย scroll wheel

ดังนั้นผู้เล่นเกมจึง สามารถปรับค่า dpi ที่ถนัดได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปยังโปรแกรมตั้งค่าของเมาส์ ทั้งนี้คุณสมบัตินี้สามารถใช้งานได้ดีในการตั้งค่าความไวขณะลองเปลียนอาวุธ ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเป็น sniper คุณอาจต้องการค่าความไวต่ำในระดับหนึ่ง แต่เมื่อคุณเปลี่ยนอาวุธมาเป็นปืนกล คุณก็สามารถทดสอบตั้งค่าการใช้งานความไวเพิ่มขึ้นในระหว่างเล่นเกมได้

เทคนิค การเล่นเกม Point Blank

เทคนิคเด็ดเดินมุดหัวหลบนักแม่น Head Shot ด้วยเทคนิคเล็กๆนี้จะทำให้ผู้ที่ฝึกจนชำนาญแล้วสามารถช่วยลดอัตราการโดน  Head shot ได้โดยไม่ต้องพึ่ง item แต่อย่างใด ทำได้ง่ายๆไม่ยากครับ แต่ผู้เล่นทั่วไปไม่ค่อยจะทำกันนัก แต่ก่อนจะขึ้นเลยขอเกริ่นไว้ก่อนว่าต้องใช้ความเคยชินเล็กน้อยครับ ว่าบริเวณนั้นเป็นแบบไหน ศัตรูอยู่จุดใด ให้ทำการหลบไปในตำแหน่งที่ไม่ใช่ทิศทางของปืนโดย การเบี่ยงเมาส์ลงไปที่พื้นดินและเดินไปทิศตรงข้ามกับปืนของศัตรู จะทำให้ตัวละครเราก้มหัวลงและทำให้ศัตรูของเราเล็ง Head Shot ได้ลำบากขึ้น อย่างไรก็ดีเทคนิคนี้เหมาะกับผู้เล่นระดับกลางไปจนถึงระดับสูง เนื่องด้วยต้องอาศัยความเคยชินและจังหวะในการเลือกใช้ตามสถานการณ์นั้นๆ   เรียกได้ว่าหากฝึกเทคนิคนี้จนชำนาญแล้วจะเป็นสกิลสำคัญของผู้เล่นในการนำไป สู่ ชัยชนะ ! เลยนะเออ








อีกเรื่องสำหรับการวิ่งหลบคือเราไม่จำเป็นต้องเดินถือปืนกันตลอดเวลาทั้งเจอ ศัตรูหรือไม่เจอก็ตาม  ซึ่งจริงๆ แล้วเมื่อผู้เล่นไม่เจอศัตรูหรือคาดหมายได้ว่าบริเวณนี้ไม่เจอศัตรู (จากการฟังเสียงหรือความเคยชิน) ควรที่จะเปลี่ยนเป็นมีด หรือ M7 เพราะจะทำให้ผู้เคลื่อนที่ได้ไวกว่าการถือปืนปกติเนื่องด้วยเมื่อถือมีด น้ำหนักของมีดจะน้อยกว่าปืนนั้นเองครับ

แนะนำ ! 25 เกมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในขณะนี้


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ในขณะนี้มีเกมออนไลน์ออกมาให้เล่นมากมาย เกมเก่า ๆ ก็ยังเล่นไม่ทันเบื่อเลย เกมใหม่ ๆ ก็ออกกันมาอีกแล้ว เยอะจนไม่รู้จะเล่นเกมไหนดี หรือจะเล่นพร้อมกันหลาย ๆ เกมก็คงเหนื่อยพอตัว ทำเอาตัดสินใจไม่ถูกกันเลยทีเดียว เราจึงได้คัดเลือกเกมออนไลน์ที่กำลัง ฮิตในขณะนี้มาทั้งหมด 25 เกม เพื่อแนะนำว่าแต่ละเกมนั้นมีความน่าสนใจยังไงบ้าง เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจในการเลือกเล่นเกมออนไลน์สักเกม



1. Point Blank

          Point Blank คือสุดยอดแห่งเกมแนว FPS (เกมยิงมุมมองบุคคลที่ 1) ที่มีจุดเด่นด้านความสมจริง ไม่ว่าจะเป็นเสียงปืน, ระเบิด และเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนได้อยู่ในสนามรบจริง ๆ ก็ไม่ปาน รวมทั้งสภาพแวดล้อมที่สามารถทำลายได้ อย่างเช่น กระจกแตก, รถยนต์ระเบิด ซึ่งสามารถใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อโจมตีฝ่ายศัตรูได้ โดยในเกมจะให้ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นได้ระหว่างฝ่าย CT Force ที่มีหน้าที่สู้เพื่อความถูกต้อง หรือฝ่าย Free Rebels ที่สู้เพื่อเรียกร้องความเป็นอิสรภาพ นอกจากนี้ ในเกมยังมีอาวุธและไอเทมต่าง ๆ ให้เลือกใช้ได้หลากหลาย ถือว่าเป็นเกมที่มันส์มากเลยทีเดียว หากใครที่เป็นคอเกม FPS ถ้าได้เล่นเกมนี้จะต้องถูกใจอย่างแน่นอน




2. Continent of the Ninth (C9)

          Continent of the Ninth หรือที่หลายคนเรียกกันว่า C9 เป็นเกมแนว Action MMORPG (เกมอาร์พีจีที่ผู้เล่นหลายคนเข้ามาเล่นอยู่ในโลกเดียวกัน) ซึ่งกำลังมาแรงมาก ๆ ในช่วงนี้ เนื่องจากความสวยงามของภาพในเกมที่สวยงามอลังการ ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมในเกม รวมไปถึงการเคลื่อนไหวของตัวละครที่ทำออกมาได้ดีมาก ๆ แถมยังมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนเกมไหน ๆ ด้วยฉาก Cut Scene ซึ่งเป็นฉากแสดงท่วงท่าการใช้ท่าไม้ตายของตัวละคร ที่ทั้งเท่ ทรงพลัง สวยงาม อลังการงานสร้าง นอกจากนี้ ระบบการสร้างตัวละครยังสามารถปรับแต่งรายละเอียดต่าง ๆ ของตัวละครได้ทั้งรูปร่าง, หน้าตา, ทรงผม หรือแม้กระทั่งรอยสัก ได้ดั่งที่ใจต้องการเล่นทีเดียว ถือว่าเป็นอีกเกมที่สุดยอดมาก ๆ



3. Tales Runner

          Tales Runner คือเกมออนไลน์แนววิ่งแข่งแฟนตาซี ที่ผู้เล่นจะได้แข่งขันด้วยการวิ่ง, กระโดด, พุ่งชน และปีนข้ามสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ในฉาก สำหรับลักษณะการเล่นจะเป็นแบบตั้งห้องแล้วให้ผู้เล่นคนอื่น ๆ เข้ามาร่วมแข่งขันด้วยกัน โดยผู้เล่นสามารถเลือกตัวละครที่จะใช้ในการแข่งขันได้ตามใจชอบ มีทั้งตัวละครแบบเท่ ๆ น่ารัก ๆ หรือตลก ๆ ซึ่งแต่ละตัวละครจะมีค่าความสามารถที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ ยังมีระบบสัตว์เลี้ยงที่นอกจากความน่ารักแล้ว ยังสามารถเป็นตัวช่วยในการแข่งขันได้อีกด้วย ใครที่ชอบเกมแนวแข่งขันกันด้วยความเร็วไม่ควรพลาดครับ




4. SPECIAL FORCE

          SPECIAL FORCE คือเกมแนว FPS ที่นำเอาหน่วยรบพิเศษที่มีชื่อเสียงของโลกในยุคปัจจุบันมารวมไว้ในเกม โดยผู้เล่นสามารถเลือกใช้ไอเทม, อาวุธ และตัวละครจากหน่วยรบต่าง ๆ เช่น SAS, SEAL, DELTA FORCE หรือ UDT ได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ เกมนี้ยังมีจุดเด่นที่ความสมจริง ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของตัวละคร, การเคลื่อนไหวของมุมมองจากการถีบกลับของปืน และเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ที่ทำให้คอเกม FPS หลาย ๆ คนที่ได้เล่นเกมนี้แล้วต้องติดกันงอมแงมเลยทีเดียว



5. BOOMZ

          BOOMZ เป็นเกม Web Based ที่ไม่ต้องดาวน์โหลดตัวเกมลงเครื่อง สามารถเล่นบนเว็บบราวเซอร์ได้เลย โดยมาพร้อมกับสโลแกน "ทุกคน...เล่นเป็น" เพราะตัวเกมนั้นไม่ซับซ้อน สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย ซึ่งวิธีเล่นจะเป็นการผลัดกันยิงอาวุธใส่ฝ่ายตรงข้ามสลับกันฝ่ายละครั้ง โดยผู้เล่นต้องคำนวณทิศทาง, องศา และความแรง รวมทั้งกระแสลมในการยิงให้ดี ถือว่าเป็นเกมที่เล่นง่าย ๆ และเล่นได้เพลินดีทีเดียว สามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย เล่นกับเพื่อน ๆ ก็สนุกสนานเฮฮาปาร์ตี้ดีมาก ๆ


6. DotA 2

          DotA 2 (Defense of the Ancient 2) เป็นเกมแนว RTS ที่สานต่อความยอดนิยมของภาคแรก ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกตัวละคร (Hero) ที่ตนเองชอบและถนัดเพื่อออกรบต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม โดยผู้เล่นต้องวางแผนในการเลือกซื้อไอเทม เลือกเส้นทาง วางแผนรุก, รับ ที่ต้องใช้ไหวพริบในการวางแผนโจมตีฝ่ายตรงข้ามด้วยสกิลและกลยุทธ์ต่าง ๆ รวมทั้งหลบหรือเอาตัวรอดในยามวิกฤต ซึ่งสามารถแบ่งทีมเล่นออนไลน์กับเพื่อน ๆ ได้ทีมละ 5 คน ทำให้เกมนี้เป็นเกมหนึ่งที่มีคนไทยนิยมเล่นกันทั่วบ้านทั่วเมืองมานานหลายปี และเนื่องจากตัวเกมยังคงมีการอัพเดทเพิ่มสิ่งใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ ทำให้มีคนนิยมเล่นกันอย่างต่อเนื่อง



7. Heroes of Newerth

          Heroes of Newerth หรือ HoN คือเกมที่พัฒนามาจากเกม DotA ซึ่งจะมีตัวละคร, สกิล หรือไอเทมต่าง ๆ ที่นำมาจาก DotA ทำให้ผู้ที่เล่น DotA มาก่อนแล้วสามารถทำความเข้าใจเกมนี้ได้อย่างง่ายดาย  เพราะระบบต่าง ๆ นั้นค่อนข้างเหมือนกันมาก ๆ แต่จะแตกต่างกันตรงชื่อเรียกเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม เกมนี้ก็มีความแตกต่างจาก DotA อยู่บ้าง อย่างเช่นตัวละครใหม่ ๆ ที่เพิ่มมาใน HoN หรือระบบลูกเล่น การปรับปรุงรายละเอียดต่าง ๆ ให้เกมให้ดีขึ้น ทำให้บางคนอาจชอบเล่นเกมนี้มากกว่า DotA ก็เป็นได้






8. League of Legends

          League of Legends หรือ LoL เป็นเกมแนว RTS เช่นเดียวกับเกมรุ่นพี่อย่าง DotA ซึ่งเป็นเกมแบ่งทีมวางแผนกลยุทธ์ในการต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม โดยในตอนเริ่มแรกจะมีตัวละคร (Champion) ให้เลือกเล่นแค่บางตัว แต่สามารถเล่นเพื่อสะสมเงินไปซื้อ Champion ใหม่ ๆ มาเล่นได้ หรือจะเติมเงินจริงเพื่อซื้อ Champion และเกมนี้ยังมีจุดเด่นตรงที่ผู้เล่นสามารถฆ่าศัตรูเพื่ออัพเลเวล Champion ให้เก่งขึ้น รวมทั้งยังสามารปรับแต่ง Champion ให้มีความสามารถตามแนวทางการเล่นของแต่ละคนได้ ทำให้ Champion ตัวเดียวกัน แต่ผู้เล่นคนละคน ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ช่วยเพิ่มความหลากหลายของตัวเกมได้มากเลยทีเดียว



9. Diablo III

          หลังจากห่างหายกันไปนานสิบกว่าปี สำหรับภาคต่อของเกม MMORPG ในตำนานอย่าง Diablo โดยในภาค 3 นี้มีตัวละครให้เลือกเล่นได้ 5 อาชีพ ได้แก่ Barbarian, Monk, Demon Hunter, Wizard และ Witch Hunter ซึ่งการเล่นนั้นยังคงเหมือนภาคก่อน ๆ คือเป็นภาพมุมมองแบบมุมสูง (Bird-Eyes View) และใช้การคลิกเพื่อเดินหรือโจมตีศัตรู มีการใช้สกิล, อัพเกรดตัวละคร, เปลี่ยนอาวุธชุดเกราะ, สามารถเล่นกับเพื่อน ๆ ในแบบ Co-op online ได้ รวมทั้งระบบ Auction House ที่เพิ่มเข้ามาในภาคนี้ เป็นระบบการค้าขายแลกเปลี่ยนไอเทมกันระหว่างผู้เล่น ซึ่งสามารถซื้อขายด้วยเงินจริงได้ด้วย นอกจากนี้ ตัวเกมยังมีระดับความยากให้เลือกได้หลายระดับ ซึ่งตัวละครทุกตัวที่เล่นในระดับเดียวกันจะใช้เงินและไอเทมต่าง ๆ ในคลังร่วมกัน ทำให้สามารถสลับไปเล่นตัวละครอื่น ๆ ได้โดยไม่ต้องเริ่มใหม่จากศูนย์ ใครเป็นแฟนซีรีส์ Diablo พลาดไม่ได้ครับ แต่เกมนี้บังคับให้ต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเวลาที่เล่นนะ งานนี้ใครที่ไม่มีเน็ตหรือเน็ตไม่ค่อยดีคงเซ็งกันเป็นแถบ ๆ




10. World of Warcraft

          World of Warcraft คือเกมแนว MMORPG ที่โด่งดังทั่วโลกมานานหลายปี ขนาดที่บางคนเรียกว่าเป็นเกม MMORPG ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกเลยทีเดียว โดยในเกมจะมีการแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย คือ Alliance และ Horde ในแต่ละฝ่ายจะมีเผ่าต่าง ๆ ให้เลือกเล่น ซึ่งแต่ละเผ่าก็จะมีอาชีพที่สามารถเลือกเล่นได้แตกต่างกันออกไป  และผู้เล่นที่อยู่คนละฝ่ายกันจะเป็นศัตรูกันอย่างถาวร คือถ้าเจอหน้ากันเมื่อไหร่ก็สามารถเข้าไปซัดกันได้เลย สำหรับโลกในตัวเกมนั้นกว้างใหญ่มหาศาลมาก มีเมือง ดันเจี้ยน และสถานที่ต่าง ๆ ที่มีเควสให้ทำมากมาย รวมทั้งยังมีระบบการประลองกันระหว่างฝ่าย Alliance และ Horde อีกด้วย ในปัจจุบันตัวเกมยังคงมีการอัพเดทเพิ่มเนื้อหาใหม่เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเผ่า, อาชีพ, สถานที่ หรือเควสใหม่ ๆ ให้ได้เล่นกันไม่มีวันเบื่อเลยทีเดียว


11. Guild Wars 2

          Guild Wars 2 เป็นเกมแนว MMORPG ที่มีกราฟฟิกสวยงามเอฟเฟกต์อลังการ เกมนี้มีจุดเด่นต่าง ๆ ที่แตกต่างจากเกม MMORPG เกมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบอาชีพที่ตัวละครทุกอาชีพจะมีสกิลในการฮีลและบัฟทั้งหมด ทำให้สามารถจับกลุ่มเล่นปาร์ตี้ได้อย่างอิสระ ไม่ต้องกังวลว่าจะขาดอาชีพในการสนับสนุนทีมไป, ระบบเควสที่สามารถทำเควสให้จบได้หลากหลายรูปแบบ, ระบบ Dynamic Event ที่มีหลากหลายขึ้นอยู่กับการเล่นของเรา ทำให้สามารถพบกับ Event ต่าง ๆ ได้หลายแบบตามลักษณะการเล่นของเรา หรือระบบการต่อสู้ระหว่างผู้เล่น (PVP) ที่มีความสมดุล ไม่ว่าผู้เล่นจะมีเลเวลต่างกันมากขนาดไหน แต่เมื่อเข้าสู้การ PVP จะมีความสามารถเท่าเทียมกันหมด ทำให้ได้สู้กันด้วยฝีมือล้วน ๆ เลย นอกจากนี้ การควบคุมตัวละครในการต่อสู้นั้น ผู้เล่นสามารถควบคุมได้ค่อนข้างอิสระ และยังมีลูกเล่นอื่น ๆ  อีกมากมายที่ทำให้ใครหลายคนชื่นชอบเกมนี้กันมาก ๆ







12. 12 Tails Online

          12 Tails Online (สิบสองหางออนไลน์) เกม MMORPG ฝีมือคนไทยที่พัฒนาโดย Big Bug Studio เป็นเกมที่ได้รับความนิยมจากผู้เล่นอย่างล้นหลาม จนเรียกได้ว่าเป็นเกมฝีมือคนไทยที่ประสบความสำเร็จสุด ๆ เลยทีเดียว โดยเนื้อเรื่องของเกมนี้เป็นโลกใน 5,000 ปีข้างหน้าที่มนุษย์สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว พวกสัตว์ต่าง ๆ จึงมีวิวัฒนาการแล้วครองโลกแทนมนุษย์ ทำให้เกมนี้มีตัวละครทั้งหมดเป็นสัตว์ที่มีทั้งแบบเท่ ๆ และแบบน่ารัก ๆ ซึ่งถือว่าจุดเด่นอย่างหนึ่งของเกมนี้ และกราฟฟิกของเกมเป็นแนวการ์ตูนสีสันสนใส ส่วนระบบของเกมนี้จะเป็นแบบรับภารกิจแล้วรวมกลุ่มตั้งห้องเข้าไปลุยภารกิจ ด้วยกัน รวมทั้งระบบเลเวล, สกิลตามมาตรฐานของเกมแนว MMORPG ซึ่งตัวเกมเล่นไม่ค่อยยาก ออกแนวสบาย ๆ เด็กเล่นได้ ผู้ใหญ่เล่นดี



13. Dragon Nest

          Dragon Nest เป็นเกมที่ผสมระหว่างแนว Action กับ MMORPG เข้าด้วยกัน ทำให้เกมมีความมันส์แตกต่างจากเกมแนว MMORPG ทั่วไป ซึ่งลักษณะเด่นของเกมนี้คือ การเคลื่อนไหวของตัวละครแบบไร้ขอบเขต 360 องศาในแบบของเกมแอ็คชั่น, การโจมตีแบบเป็นคอมโบทั้งบนพื้นและกลางอากาศ ผสมด้วยระบบพัฒนาตัวละครและภารกิจต่าง ๆ ในแบบ MMORPG พร้อมกราฟฟิกที่สดใสสวยงาม และยังมีระบบ PVP หลากหลายรูปแบบ โดยในเกมนี้มีอาชีพให้เลือกเล่นทั้งหมด 4 อาชีพ และสามารถพัฒนาไปเป็นอาชีพอื่น ๆ ได้อีกมากถึง 20 อาชีพเลยทีเดียว ด้วยจุดเด่นทั้งหมดนี้ ทำให้เกมนี้กลายเป็นเกมที่โดนใจผู้เล่นหลาย ๆ คนเลยทีเดียว




14. Final Fantasy XIV Online

          Final Fantasy เกม RPG ชื่อดังระดับโลกที่ออกมาแล้วหลายต่อหลายภาค โดยมีภาค 11 ที่เคยถูกนำมาทำเป็นเกมออนไลน์แบบ MMORPG ครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จนในปัจจุบันภาคที่ 14 ก็ได้ทำเป็นเกมออนไลน์อีกครั้ง โดยใช้ทีมสร้างเดิมที่เคยทำภาค 11 ซึ่งจุดเด่นของเกมนี้คือเอกลักษณ์ของความเป็น Final Fantasy ไม่ว่าจะเป็นระบบอาชีพ, สกิล, มนต์อสูร, มอนสเตอร์ หรือแม้กระทั่งยานพาหนะอย่างเจ้านกสีเหลือง Chocobo ที่ทำให้แฟน ๆ Final Fantasy ที่ได้เล่นเกมนี้จะต้องหลงใหล ได้ผจญภัยในโลกอันกว้างใหญ่พร้อมทั้งทำเควสร่วมกับเพื่อน ๆ โดยในเกมนี้มีตัวละครให้เลือกเล่นหลากหลายเผ่าเลยทีเดียว แถมทุกเผ่ายังสามารถเล่นได้ทุกอาชีพไม่มีจำกัดอีกด้วย ชอบเผ่าไหนอาชีพไหนก็เลือกกันได้ตามใจชอบเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เป็นแฟนเกม Final Fantasy อยู่แล้วจะต้องหลงรักเกมนี้อย่างแน่นอน



15. Pocket Ninja

          Pocket Ninja เป็นเกม Web Based คือเกมที่เล่นบนเว็บบราวเซอร์ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดเกมมาลงเครื่อง ซึ่งในเกมได้ขนเหล่าตัวละครจากการ์ตูนยอดนิยมอย่าง Naruto และ Bleach มาให้ได้เลือกเล่นกันกว่า 100 ตัวเลยทีเดียว โดยตัวเกมเป็นแนว Turn Base Fighting ที่ผู้เล่นต้องสลับกันใช้สกิลโจมตีฝ่ายตรงข้าม และในแต่ละตัวละครก็มีจะท่าต่าง ๆ จากในการ์ตูนให้เลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น พันปักษา, กระสุนวงจักร, ผนึก 5 วิถี,  มวยอ่อน 8 ทิศ และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังมีสัตว์เลี้ยงนานาชนิดให้ได้เลี้ยง เพื่อเอาไว้คอยช่วยเหลือเราในการต่อสู้ อีกทั้งยังมีดันเจี้ยนให้ลุย พร้อมทั้งบอสให้สู้ ใครเป็นแฟน Naruto และ Bleach ไม่ควรพลาดครับ มันส์มาก ๆ


16. Counter Strike Online

          Counter Strike (CS) เกมแนว FPS ที่ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองเมื่อสมัยสิบกว่าปีที่แล้ว ปัจจุบันได้นำมาพัฒนาใหม่เป็นเกมออนไลน์เต็มรูปแบบแล้ว โดยยังคงมีรูปแบบการเล่นที่เข้าใจง่าย มีโหมดให้เลือกเล่นหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโหมดดั้งเดิมของเกม CS อย่างโหมดโจรวางระเบิดกับตำรวจกู้ระเบิด, โหมดช่วยตัวประกัน หรือจะเป็นโหมดใหม่ ๆ อย่างเช่น โหมดตะลุยซอมบี้ และโหมดบาซูก้า นอกจากนี้ ยังมีระบบเควสที่เป็นกิจกรรมสนุก ๆ ในเกมให้ผู้เล่นทำแล้วได้รับรางวัล ใครที่คิดถึงวันวานสมัยเล่น CS ตามร้านเน็ตหลังเลิกเรียน ไม่ควรพลาดเกมนี้ด้วยประการทั้งปวง



17. Glory Destiny

          เกม MMORPG แนวสดใสน่ารักที่กำลังได้รับความสนใจจากเกมเมอร์ทั้งหลาย เนื่องจากเกมนี้มีจุดเด่นหลายอย่างที่น่าสนใจ อาทิเช่น ธีมของเกมที่ออกแนวแอ๊บแบ๊วสดใสน่ารัก, ระบบแปลงร่างเป็นสัตว์อสูรที่รูปร่างจะแตกต่างกันไปตามเผ่าและเพศ ซึ่งขณะแปลงร่างจะทำให้ตัวละครเก่งมากขึ้น, ระบบสัตว์เลี้ยงที่นอกจากจะน่ารักแล้ว ยังสามารถช่วยเราในการต่อสู้ได้ด้วย และยังมีระบบคู่รักในเกม ที่ทำให้เราได้ EXP มากกว่าปกติหากเล่นอยู่ใกล้ ๆ ตัวละครคู่รักของเราอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีลูกเล่นต่าง ๆ อีกมากมายที่ทำให้เกมนี้มีผู้คนให้ความสนใจกันอย่างแพร่แหลาย




18. Devil Online

          Devil Online เป็นเกม MMORPG ที่ผู้เล่นจะได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้ระหว่างเผ่าเทพและมาร โดยเกมนี้มีจุดเด่นที่ระบบสงครามระหว่างเผ่า ซึ่งผู้เล่นที่เจอตัวละครเผ่าศัตรูจะสามารถเข้าไปซัดกันได้ทันทีเลย รวมทั้งยังมีการทำสงครามใหญ่ที่เป็นการรวมกลุ่มต่อสู้ระหว่างทั้งสองเผ่าอีก ด้วย ตัวเกมมีอาชีพให้เลือกเล่นทั้งหมด 3 ประเภทคือ สายโจมตีระยะใกล้, สายโจมตีระยะไกล และสายเวทมนตร์ โดยแต่ละสายจะมีความสามารถเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป และยังมีระบบลูกเล่นอื่น ๆ อีกมากมาย ถือว่าเป็นเกมที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลย



19. Drakensang Online

          Drakensang Online เป็นเกม MMORPG แบบ Web Based คือเล่นบนเว็บบราวเซอร์ โดยไม่ต้องมีการดาวน์โหลดตัวเกมมาลงเครื่อง ลักษณะตัวเกมจะคล้าย ๆ กับเกมตระกูล Diablo ทั้งมุมกล้องแบบ Bird-Eyes View, อินเทอร์เฟส และระบบต่าง ๆ ทำให้ผู้ที่เคยเล่นเกม Diablo มาก่อนแล้วสามารถทำความเข้าใจกับเกมนี้ได้ไม่ยากนัก โดยผู้เล่นสามารถเล่นตัวละครได้จาก 3 อาชีพ ได้แก่ Dragon Knight เป็นนักรบมังกรโจมตีระยะประชิด, Spellweaver เป็นนักเวทย์ และ Ranger เป็นนักธนู ในเกมจะมีแมพและดันเจี้ยนต่าง ๆ ให้ลุยมากมาย รวมทั้งเควสที่หลากหลาย และบอสที่สู้มันส์สุด ๆ รวมทั้งเอฟเฟกต์ที่อลังการ โดยรวมถือว่าเป็นเกมเล่นบนเว็บที่น่าเล่นมาก ๆ เลยครับ




20. Legend of Edda

          Legend of Edda เกมแนว MMORPG สไตล์น่ารักแบ๊ว ๆ โดยเกมนี้เน้นไปที่สงครามระหว่างฝ่ายเทพจาก Olympus กับฝ่าย Titan แน่นอนว่าเน้นสงคราม ในเกมจะมีอาชีพให้เลือกเล่นทั้งหมด 6 อาชีพ ได้แก่ Warrior, Swordsman, Assassin, Cleric, Wizard และ Archer โดยแต่ละอาชีพจะมี 3 ระดับทำให้เรามีตัวเลือกในการเล่นเยอะมากเลยล่ะครับ สำหรับระบบสงครามนั้นจะมีทั้งแบบต่อสู้กันระหว่างผู้เล่นแบบ 1 ต่อ 1 และแบบต่อสู้ระหว่างเผ่าที่สามารถสู้ได้มากถึง 100 ต่อ 100 คนเลยทีเดียว และเผ่าที่ชนะจะได้ Buff พิเศษติดตัวเป็นรางวัลอีกด้วย



21. Mstar

          Mstar เกมเต้น ที่คุณต้องเต้นตาม... คือเกมเต้นออนไลน์ที่กำลังฮิตที่สุดในขนาดนี้ ด้วยความเป็นเกมเต้นที่มีกราฟฟิกสวยงามและมีเพลงจากศิลปินดัง ๆ ทั้งเพลงไทยและเพลงสากลมาให้ได้เต้นกันมันส์กระจาย โดยมีเพลงทั้งจากค่าย GMM, RS, Universal และอื่น ๆ อีกมากมาย หรือแม้กระทั่งเพลงฮิตสนั่นโลกอย่างกังนัมสไตล์ก็ยังมีให้เต้นกันด้วยนะ แถมตัวละครในเกมยังเต้นท่าเดียวกับท่าเต้นของศิลปินตัวจริงอีกด้วย โดยวิธีเล่นจะเป็นการกดปุ่มลูกศรให้ตรงจังหวะตามที่แสดงบนหน้าจอ ซึ่งสามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยาก งานนี้ขาแดนซ์พลาดไม่ได้เด็ดขาดครับ




22. Love Beat

          Love Beat เกมเต้นสไตล์เกาหลี ที่มีวิธีการเล่นแบบกดปุ่มลูกศรเรียงเป็นชุดตามที่แสดงบนหน้าจอ โดยมีจุดเด่นด้านการแต่งตัวตัวละครของเราตามแฟชั่นได้หลากหลายแนว รวมทั้งโหมดการเล่นที่มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโหมดธรรมดา, โหมดเล่นเป็นทีม, โหมดคู่รัก และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งเกมนี้มีระบบคู่รักเป็นอีกหนึ่งระบบเด่น ที่สามารถส่งอีโมติค่อนให้คนรักหรือใช้ไอคอนแสดงอารมณ์ของคู่รักได้ นอกจากนี้ ยังมีภารกิจต่าง ๆ ในเกมให้ทำอีกด้วย ใครที่ชอบเกมเต้นและมีแฟน ลองชวนแฟนให้มาเล่นเกมนี้ด้วยกันสิครับ น่าจะเหมาะมาก ๆ เลยทีเดียว






23. FIFA Online 2

          FIFA Online 2 เกมฟุตบอลออนไลน์ที่นำเกม FIFA มาทำเป็นเกมออนไลน์ ให้คอฟุตบอลทั้งหลายได้ฟาดแข้งเตะบอลกับเพื่อน ๆ ในแบบออนไลน์ หรือจะเล่นคนเดียวแข่งกับคอมก็ได้เช่นกัน ซึ่งเกมนี้มีจุดเด่นที่ความสมจริง โดยผู้เล่นสร้างทีมและบริหารทีมของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายตัวนักเตะ, เพิ่มสเตตัสให้นักเตะ, จัดแผนทีม ฯลฯ สำหรับระบบอื่น ๆ ก็ตามมาตรฐานของเกมตระกูล FIFA ใครที่เป็นคอบอลแนะนำให้ลองเล่นเกมนี้กันดูครับ อาจจะติดใจก็ได้นะ








24. Pangya

          ผ่านหลายปีแล้ว... นับตั้งแต่วันที่ Pangya เกมตีกอล์ฟออนไลน์ได้เปิดให้บริการในประเทศไทย ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงนั้น และจนถึงปัจจุบันนี้ แม้จะไม่มีคนนิยมเล่นกันมากเท่ากับสมัยก่อน แต่ก็ยังคงมีคนหลาย ๆ กลุ่มเล่นกันอยู่เรื่อย ๆ เนื่องมาจากตัวเกมมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนเกมไหน ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่มีเอกลักษณ์และสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ตามใจชอบ. กราฟฟิกสีสันสดใส, ระบบการเล่นที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่เกมตีกอล์ฟธรรมดา ๆ แต่มีการใช้ไอเทมพิเศษหรือใช้ท่าตีแบบพิเศษ รวมทั้งสนามและไม้กอล์ฟที่มีให้เลือกเล่นหลากหลาย และยังมีลูกเล่นอื่น ๆ อีกมากมาย ในเกมจะมีโหมดการเล่นหลัก ๆ อยู่ 2 โหมด ก็คือโหมด Match ที่สามารถเล่นแข่งพร้อม ๆ กันได้สูงสุดถึง 30 คน และโหมด VS สำหรับเล่นแบบผลัดกันตี 2-4 คน โดยปัจจุบันนี้ตัวเกมยังคงมีการอัพเดทเพิ่มตัวละคร, สนาม และไอเทมใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ ถือว่าเป็นเกมที่เล่นแล้วเพลินจนลืมเวลาไปเลย ยิ่งถ้าได้เล่นกับเพื่อน ๆ แล้วล่ะก็ รับรองได้ติดกันงอมแงมอย่างแน่นอน



25. Eden Online

          Eden Online เป็นเกม MMORPG ที่มีธีมของเกมเป็นแบบ Fantasy น่ารักสดใส ซึ่งผู้เล่นจะได้สวมบทบาทตัวละครหนึ่งใน 5 เผ่าพันธุ์ แล้วออกผจญภัยและต่อสู้เพื่อนำความสงบสุขมาสู่เผ่าพันธุ์ ซึ่งตัวเกมนี้มีจุดเด่นคือระบบ Transform หรือการเปลี่ยนอาชีพนั่นเอง โดยระบบนี้ทำให้ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนอาชีพของตัวละครไปมาได้ ให้เหมาะสมตามแต่สถานการณ์ในการต่อสู้ ซึ่งบางอาชีพปลดล็อคได้ด้วยการทำเควสต์ที่กำหนด และสามารถเปลี่ยนไปเล่นอาชีพใหม่ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเริ่มเล่นตัวละคร ใหม่




          นอกจาก 25 เกมฮิต ๆ ที่เราได้แนะนำกันไปแล้ว ยังมีเกม Blade & Soul อีกหนึ่งเกม ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีเซิฟเวอร์ไทย แต่มีเกมเมอร์ชาวไทยรอเล่นเกมนี้กันอย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว เพราะเกมนี้เป็นเกม MMORPG ยุคใหม่ที่มีกราฟฟิกสวยงามอลังการมาก พร้อมด้วยตัวละครที่ออกแบบมาได้ดูดีและมีเอกลักษณ์มาก ๆ แถมยังมีจุดเด่นอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบการต่อสู้ที่มีการทำคอมโบด้วยสกิลต่าง ๆ รวมทั้งเสื้อผ้าที่ไม่มีผลต่อค่าสเตตัส ทำให้สามารถเลือกใส่เสื้อผ้าสวย ๆ ตามใจชอบได้เลย เรียกได้ว่าเป็นเกม MMORPG ที่น่าสนใจเป็นอันดับต้น ๆ ในขณะนี้เลยทีเดียว และสุดท้ายนี้ ก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ใครหลายคนสามารถตัดสินใจในการเลือกเล่นเกมออ นไลน์ได้ง่ายขึ้นไม่มากก็น้อยนะครับ

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก pb.in.th, c9.in.th, talesrunner.in.th, sf.in.th, boomz.in.th, thaidota2.in.th, hon.in.th, playlol.in.th , battle.net/d3, battle.net/wow, guildwars2.com, 12t.in.th, dragonnest.in.th, finalfantasyxiv.com, pkninja.in.th, counterstrike.in.th, gdo.in.th, dvo.in.th, dso.in.th, edda.in.th, mstar.in.th, lb.in.th, fol2.in.th, pangya.in.th, eden.in.th, bladeandsoul.com


วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ตำนานนกกรงหัวจุก

จากการศึกษาข้อมูล และจากการสอบถามผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกที่ได้สัมผัสกับการเลี้ยงนกกรงหัวจุก (นกหัวจุก) มานับสิบๆปี ได้กล่าวว่า ในประเทศไทย ได้มีการเลี้ยงนกกรงหัวจุก (นกหัวจุก) ที่จับมาจากป่ามาเลี้ยงแล้วนับ 100 ปี แต่เล

จากการศึกษาข้อมูล และจากการสอบถามผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกที่ได้สัมผัสกับการเลี้ยงนกกรงหัวจุก (นกหัวจุก) มานับสิบๆปี ได้กล่าวว่า ในประเทศไทย ได้มีการเลี้ยงนกกรงหัวจุก (นกหัวจุก) ที่จับมาจากป่ามาเลี้ยงแล้วนับ 100 ปี แต่เลี้ยงกันตามบ้านไม่ได้แพร่หลาย เพิ่งจะมีการเลี้ยงอย่างจริงจังและมีการประกวดเมื่อปี 2519 หรือประมาณ 30 ปีมาแล้ว และเลี้ยงกันมากจนกลายเป็นวิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมของไทย ปัจจุบันมีการเลี้ยงนกกรงหัวจุกอยู่เป็นจำนวนมาก เลี้ยงกันตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด และระดับประเทศ รวมไปถึงประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ในทางภาคใต้จะมีการจัดการแข่งขันการประกวดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ มีสิ่งของรางวัลมอบให้แก่ผู้ชนะการประกวด มีการจัดตั้งชมรมนกกรงหัวจุกในทุกระดับตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด และระดับประเทศเช่นกัน และมีการประสานงานกันเป็นเครือข่าย ว่าจะมีการจัดประกวดแข่งขันกันที่ไหนบ้าง ทุกชมรมก็จะจัดส่งนกกรงหัวจุกเข้าประกวด ทำให้การประกวดสนุกสนานและคึกคักยิ่งขึ้น เพราะขณะที่กรรมการติดสิน เจ้าของนกก็จะส่งเสียงเชียร์นกของตนเองและพรรคพวก ดูแล้วคึกคักสนุกสนานและเป็นการคลายเครียดเป็นการพักผ่อนไปในตัว
นกกรงหัวจุก (นกหัวจุก) เป็นนกอยู่ในวงศ์นกปรอดใน Family Pycnonotidae หรือวงศ์นกปรอด มีชื่อเป็นทางการว่า "นกปรอดหัวโขนเคราแดง" มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pycnonotus Jocosus ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ปี 2535 จัดเป็นนกคุ้มครองประเภทที่ 3 แต่สามารถเพาะพันธุ์ได้ นกในวงศ์นกปรอดนี้ ส่วนใหญ่พบในประเทสแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้มาก มีชื่อเรียกกันดังนี้
1.ชื่อเรียกเป็นทางการว่า "นกปรอดหัวโขนเคราแดง" 2.ชื่อเรียกในทางภาคเหนือว่า "นกพิชหลิว" 3.ชื่อเรียกในทางภาคกลางว่า "นกปรอดหัวโขน" หรือ "นกปรอดหัวจุก" 4.ชื่อเรียกในทางภาคใต้ว่า "นกกรงหัวจุก" 5.ชื่อเรียกเป็นภาษามาลายูท้องถิ่นว่า "บุรงวอเบาะยาโม" ของชาวมุสลิม 6.ชื่อเรียกที่เป็นทีรู้จักกันทุกภาคว่า "นกกรงหัวจุก" วงศ์นกปรอดมีหลายชนิด เช่น
1. นกปรอดหัวโขนเคราแดง      บ้างก็เรียกว่า ปรอดหัวโขนแก้มแดง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Red whiskered Bulbul ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pycnonotus Jocosus ได้ชื่อตามลักษณะของตัวนกเอง เป็นต้นว่า หัวโขน หมายถึง บนหัวมีขนยาวเป็นจุก เหมือนการสวมหัวโขนเอาไว้ ส่วนที่ว่าเคราแดงไม่น่าจะถูกต้อง จริงๆแล้วส่วนที่เป็นสีแดงจะอยู่ใต้ดวงตา นิยมเรียกว่า หูแดง หรือ แก้มแดง นกชนิดนี้มีชื่อเรียกตามภาษาท้องถิ่นอยู่มากกมาย เช่น ภาคใต้ เรียกว่า นกกรงหัวจุก ภาคเหนือเรียกว่า นกปริ๊ดจะหลิว หรือพิชหลิว ส่วนภาคกลางเรียกว่า นกปรอดหัวจุกหรือนกหรอดหัวโขน เป็นนกที่น่าดู ใครๆก็ชอบ อาศัยอยู่ตามป่าไร่
2. นกปรอดก้นเหลือง      บ้างก็เรียกนกปรอดหัวโขนก้นเหลือง มีชื่อภาษากังกฤษว่า Brown-breasted Bulbul ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pycnonotus xanthorrhous มีแถบสีน้ำตาลที่อก ซึ่งตัดกับสีขาวของลำคอ อกส่วนล่างและท้องออกขาว ใต้หางสีเหลือง จุกสั้นสีดำ ช่องว่างระหว่างตากับจะงอยปากและหนวดสีดำแกมสีน้ำตาล ชอบอาศัยอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้
3. นกปรอดก้นแดง      นกปรอดก้นแดงหรือนกปรอดคางแพะ เรียกชื่อภาษาอังกฤษว่า Sooty-headed Bulbul มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pycnonotus aurigaster จุกสั้นสีดำ หน้ากากสีดำตัดแก้ม แก้มสีขาวเทา ส่วนบนสีน้ำตาลเทา มีแถบขาวบนขนหางด้านบน หลายหางสีขาว ด้านล่างสีขาวเทา ขนใต้หางอาจมีสีแดงหรือสีเหลือง อาศัยตามสวน ในที่เพาะปลูกและป่าโปร่ง
4. นกปรอดหน้านวลก้นเหลือง      นกปรอดหน้านวล หรือนกปรอดหน้านวล ก้นเหลือง ขอบตาขาว มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Yellow-vented Bulbul มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pycnonotus goiavier ตัวผู้และตัวเมียเหมือนกัน ด้านบนของตัวมีสีน้ำตาลอมเขียว ด้านใต้ท้องมีสีขาวเจือน้ำตาลอ่อนเล็กน้อย ระหว่างตาและโคนปากมีสีดำ เหนือตามีแถบกว้างสีขาวคล้ายคิ้ว ขนคลุมใต้โคนหางมีสีเหลือง อยู่ตามแหล่งเพาะปลูก ตามสวนมะพร้าวที่อยู่ติดทะเล
5. นกปรอดสวน      มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Streak-eared Bulbul มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pycnonotus Blanfordi คล้ายกัยนกปรอดสีไพรใหญ่ แต่มีสีซีดกว่า แบะมีสีน้ำตาลเจือมากกว่า ขนคลุมใต้โคนหางเป็นสีเหลืองมากกว่าปรอดสีไพรใหญ่ และขนคลุมหูมีลายขาวเป็นแถบๆ อยู่ตามพื้นทีเพาะปลูก ตามสวนพบทั่วไปในที่ลุ่ม
6. นกปรอดทอง      มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Black-headed Bulbul มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pycnonotus Atriceps ตัวผู้และตัวเมียเหมือนกัน ถัดเข้ามามีแถบเล็กๆ สีน้ำตาล นัยน์ตาสีฟ้า มีอยู่ในทุกภาคของประเทศไทย ชอบอยู่ตามชายป่า
7. นกปรอดเหลืองหัวจุก     ชื่อสามัญ Black-crested Bulbul ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pycnonotus melanicterus
ที่มา :  คู่มือนกกรงหัวจุก โดย เอกชัย พฤกษ์อำไพ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดปัตตานี           สำนักพิมพ์ฐานเกษตรกรรม 2546

อาหารของกรงหัวจุก

นกกรงหัวจุกชอบกินผลไม้และพืชผักเป็นหลัก นอกจากนี้ยังชอบกินหนอน ตั๊กแตน และแมลงอื่นๆ ซึ่งเป็นอาหารโปรตีน เพื่อทำให้ร่างกายเจริญเติบโต ถ้าจะให้อาหารเม็ด ต้องเป็นอาหารลูกไก่ก็ยิ่งเจริญเติบโตดี

นกกรงหัวจุกชอบกินผลไม้และพืชผักเป็นหลัก นอกจากนี้ยังชอบกินหนอน ตั๊กแตน และแมลงอื่นๆ ซึ่งเป็นอาหารโปรตีน เพื่อทำให้ร่างกายเจริญเติบโต ถ้าจะให้อาหารเม็ด ต้องเป็นอาหารลูกไก่ก็ยิ่งเจริญเติบโตดี ซึ่งอาหารต่างๆ มีดังนี้
อาหารที่เป็นผลไม้ ผลไม้ที่นกกรงหัวจุกกินจะเป็นสมุนไพรไปในตัว สามารถรักษาหรือป้องกันโรคต่างๆ ได้ดี มีดังนี้ "กล้วยน้ำว้าสุก" เป็นยาแก้ท้องผูก ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายดี ข้อควรระวังให้กินนานๆ เสียงนกจะร้องเพี้ยน เพราะเนื้อกล้วยจะเหนียวติดปากนก นกก็จะอ้าปากร้องได้ไม่เต็มที่ "มะละกอสุก" เพราะเป็นยาระบายท้อง แก้ร้อนในกระหายน้ำ บำรุงสายตาและขับพยาธิเส้นด้าย "ส้มเขียวหวาน" มีวิตามินซี เป็นยาแก้ไขแก้ปวด แก้เจ็บคอและไอขับเสมหะและแก้อาเจียน "ฝรั่งสุก" เป็นยาแก้ท้องร่วง เป็นบิด และบำรุงหัวใจ "มะม่วงสุก" เป็นยาแก้ท้องอืด อาหารไม่ย่อยและบำรุงกระเพาะอาหารให้แข็งแรง "พุทราสุก" เป็นยาแก้อ่อนเพลีย ผอมแห้งแรงน้อย นอกจากนี้ ยังมีผลไม้ป่าอีกหลายชนิดที่นกกรงหัวจุกกิน ได้แก่ ลูกหว้า ลูกไทร
อาหารที่เป็นพืชผัก พืชผักที่นกกรงหัวจุกกิน จะเป็นพืนสมุนไพรไปในตัว สามารถรักษาหรือป้อนกันโรคต่างๆ ได้ดี มีดังนี้ "ลูกตำลึง" เป็นยาแก้ระบายท้อง "มะเขือเทศ" เป็นยาแก้นกเบื่ออาหาร แก้ร้อนในกระหายน้ำ บำรุงเลือด และกระตุ้นกล้ามเนื้อ "แตงกวา" เป็นยาแก้ร้อนใน บำรุงปอด ช่วยย่อยอาหาร ช่วยให้ความจำดี เมล็ดขับพยาธิ ข้อควรระวัง ก่อนให้นกกิน ต้องนำไปแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน เพราะจะมีสารเคมีตกค้างมากับแตงกวา ถ้าให้นกกินเลยโดยไม่ล้างหรือแช่น้ำนกอาจจะตายได้ "พริกขี้หนูแดง" เป็นยาเจริญอาหาร บำรุงกำลัง และเป็นยาแก้ท้องเสีย แก้ปอดบวม และทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี โดยนำมาล้างน้ำแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ นำไปผสมกับน้ำผึ้ง ให้นกกรงหัวจุกกิน จะทำให้นกเสียงดีแบบเดียวกับที่เลี้ยงนกขุนทองแล้วให้กินพริกขี้หนู นกขุนทองเสียงจะดีและพูดเก่ง "บวบ" เป็นยาระบายท้อง แก้ไขและแก้ร้อนใส
อาหารที่เป็นหนอนและแมลง ได้แก่ หนอนนก ไข่มดแดง ปลวก จิ้งหรีด ตั๊กแตน แมลงเม่า อาหารพวกนี้จะเป็นอาหารโปรตีน ทำให้จกเจริญเติบโตได้เร็ว
อาหารเม็ด เป็นอาหารสำหรับให้ลูกไก่กิน ควรเป็นอาหารเสริมให้นกกรงหัวจุกกินเป็นบางครั้งบางคราว นกกรงหัวจุกเป็นนกที่กินอาหารได้ตลอดวัน และอุจจาระไปเรื่อยๆ ดังนั้น การให้อาหารก็ต้องคอยดูว่าอาหารที่ให้หมดหรือยัง ถ้าหมดแล้วก็ให้ใหม่ ผู้เลี้ยงควรเปลี่ยนอาหารสลับกันไป เป็นผลไม้บ้าง พืชผักบ้าง หนอนนกบ้าง และอาหารเม็ดบ้าง
ใบพืช ปกติในธรรมชาติ นกกรงหัวจุกก็จะกินใบพืช เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่สบาย ผู้เลี้ยงควรหามาให้นกกินบ้าง ได้แก่ 1.ใบมะขาม เป็นยาแก้หวัด คัดจมูก 2.ใบผักหวาน เป็นยาแก้ไข 3.ใบตำลึง เป็นยาแก้ร้อนใส
เมล็ดธัญพืช แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ เมล็ดจำพวกข้าว พวกนี้จะมีปริมาณของแป้งสูง ซึ่งจะทำให้พลังงานแก่นก อีกกลุ่มหนึ่งได้แก่ เมล็ดที่มีส่วนประกอบของน้ำมันผสมอยู่ เช่น เมล็ดทานตะวัน เมล็ดเกาลัด และพวกถั่ว เป็นต้น
อาหารพิเศษ เป็นอาหารที่ผู้เลี้ยงใช้เสริมเข้าไปในอาหารหลัก เพื่อให้นกมีความแข็งแรงสมบูรณ์ คึกคักตลอดเวลา หรือแม้แต่รักษาอาการป่วยก็ได้ผลดี  ปกติจะให้อาการเสริมแก่นักตัวพิเศษที่เลี้ยงไว้แข่งขัน เช่น - ข้าวสวยสุกผสมแกงส้มภาคใต้ ผู้เลี้ยงนกในท้องถิ่นภาคใต้นิยมใช้เป็นอาหารเสริมให้นกกิน สรรพคุณนั้นกล่าวกันว่า เพื่อทำให้นกสมบูรณ์แข็งแรง คึกคักเร็วขึ้น ไม่เจ็บป่วย อาจเป็นเพราะเครื่องแกงส้มมีส่วนประกอบของสมุนไพรหลายชนิดนั่นเอง - พริกสดแช่น้ำผึ้ง หั่นพริกขี้หนูสุกสดๆ ขนาดนกกินได้พอดีแล้วแช่ไว้ในน้ำผึ้ง ถ้าจะให้ดีควรเป็นน้ำผึ้งเดือนห้าที่เตรียมไว้ให้นกกิน ทำให้ลำคอนกโปร่งโล่ง ขับถ่ายสะดวก เป็นการทำให้น้ำเสียงใสกังวานไม่แตกพร่า - อาหารสูตรที่ผู้เลี้ยงนกส่วนใหญ่ใช้อยู่อีกสูตรหนึ่ง คือเอาเฉพาะไข่แดงของไข่ต้มไปตากแห้ง นำไปผสมากับถั่วลิสงป่น ถั่วเหลือง แคลเซี่ยมสำหรับสัตว์ปีก และนมผงที่ใช้เลี้ยงเด้กคลุกเคล้าให้เข้ากันดี นำไปตากแดดให้แห้งสนิท นำไปให้นกที่เพิ่งได้มาใหม่กิน เพื่อให้นกมีความแข็งแรงสมบูรณ์ คึกคัก ขนสวยเป็นมันวาว - กระดองปลาหมึก จำเป็นอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความเจริญเติบโตของกระดูก ขนและจะงอยปาก และใช้ในการสร้างไข่ - ทรายนก ต้องการพวกเม็ดทราย เพื่อช่วยบดและย่อยอาหาร - แท่งไอโอดีน ช่วยให้ต่อมไทรอยด์ทำงานเป็นปกติ - วิตามิน จะให้โดยผสมในน้ำหรือผสมอาหาร แต่ทางที่ดีควรดูว่าอาหารที่ให้นั้นขาดอะไรแล้วจึงให้จะดีกว่า
อาหารผสม เมล็ดพืชผสมจะมีความหลากหลายของสารอาหาร เช่น คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่จะให้แก่นก ซึ่งจะมีส่วนผสมของถั่ว ผักและผลไม้แห้ง ถ้าเราเลี้ยงด้วยอาหารผสม ควรเสริมด้วยผักและผลไม้ให้นกด้วย
ผัก มีสารอาหารที่สำคัญ เช่น วิตามิน แคลเซี่ยม และธาตุเหล็ก เช่น ผักกาด ผักขม แครอท ข้าวโพด แขวนผักไว้ในกรงจะช่วยกระตุ้นให้นกกิน ไม่ว่าจะใช้วิธีแขวนหรือวางไว้ ควรเลี่ยงตำแหน่งที่ขี้นกจะตกใส่ ควรเปลี่ยนผักใหม่ทุก 3-4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรีย
ผลไม้ แม้ว่าผักจะมีสารอาหารที่สำคัญสำหรับนก แต่การให้ผลไม้ก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังมีความหลากหลาย หาได้ง่ายตามฤดูกาล ผลไม้ทั่วไปที่ให้นกได้แก่ กล้วย แอปเปิ้ล องุ่น มะม่วง แตงกวา ฯลฯ ไม่ว่าจะใช้วิธีแขวนหรือวางไว้ในภาชนะก็ควาเลี่ยงตำแหน่งที่ขี้นกจะตกใส่ ทั้งผลไม้และผักควรให้ในปริมาณที่พอดี เพราะถ้าให้มากไปอาจทำให้ท้องร่วงได้ อัตราส่วนที่เหมาะสมสำหรับผักและผลไม้คือ 75% และ 25% ตามลำดับ
วิตามินและแร่ธาตุ การเสริมด้วยวิตามินและแร่ธาตุไม่ค่อยจำเป็นเท่าใดนัก ในกรณีที่คุณเลี้ยงด้วยอาหารเม็ดหรืออาหารผสม ถ้าหากต้องการจะเสริมควรปรึกษาสัตวแพทย์ การเสริมควรเสริมในอาหารชนิดอ่อน ไม่ควรเสริมลงไปในน้ำกิน เพราะว่าเชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดีในน้ำ อาจเป็นอันตรายต่อตัวนกได้ แต่ถ้าจะใช้วิธีใส่วิตามินลบไปในน้ำ ก็ควรเปลี่ยนน้ำให้นกทุกวัน เพื่อป้อนกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย นกที่ชอบถอนขนตัวเองแสดงว่านกได้รับวิตามินไม่พอเพียง
ลิ้นทะเลและเกลือแร่ ควรจัดหาลิ้นทะเลหรือก้อนเกลือแร่ให้แก่นก โดยแขวนหรือวางไว้ในภาชนะก็ได้
น้ำ น้ำเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนก นอกจากจะใช้ดื่มแล้วยังใช้อาบด้วย ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนน้ำอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อแบคทีเรีย
Spray Millet เป็นอาหารที่ดีสำหรับนกทุกพันธุ์รวมถึงนกป่าด้วย ในธรรมชาตินกจะเกาะแทะกินสเปรย์มิลเล็ท เมื่อเราใช้เลี้ยงนกจึงควรแขวนสเปรย์มิลเล็ทไว้กับกรง เพื่อกระตุ้นให้นกกิน สเปรย์มิลเล็ท ยังสามารถใช้ฝึกนกให้เชื่องได้อีกด้วย โดยการถือสเปรย์มิลเล็ทไว้ในมือให้นกกินทุกวัน ในตอนแรกเราไม่ควรเข้าไปใกล้มากนัก
การให้อาหาร ควรให้เป็นเวลา อย่าให้พร่ำเพรื่อหรือหลายอย่างพร้อมกัน เพราะถ้านกกินอิ่มมากเกินไปจะทำให้ท้องเสีย ซึ่งจะเกิดโทษได้ ควรให้นกกินอาหารหลายชนิดจนเกิดความเคยชิน เพราะถ้าไม่มีกล้วย เราจะเอาถั่วลิสงหรือแม้แต่ไข่ต้มคลุกข้าว นกก็จะสามารถกินได้ ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวควรให้กินพอประมาณ เพราะถ้าให้กินพร่ำเพรื่อจะทำให้นกท้องเสียได้
การให้น้ำ น้ำสำหรับนกกรงหัวจุก ควรเป็นน้ำที่สะอาด เมื่อดูแล้วน้ำในถ้วยที่ให้นกกรงหัวจุกใกล้หมด ก็ต้องเติมน้ำให้ใหม่ เพราะนกกรงหัวจุกชอบร้องทั้งวัน ก็เหมือนคนที่พูดมากๆ ต้องหิวน้ำเป็นธรรมดา อย่าให้นกกรงหัวจุกขาดน้ำ ถ้านกขาดน้ำนกกรงหัวจุกจะมีลักษณะขนตั้งชัน และนกกรงหัวจุกก็จะตายได้ ปกตินกกรงหัวจุกจะขาดน้ำได้ประมาณ 2-3 วัน ดังนั้น ผู้เลี้ยงที่จะไปไหนหลายๆ วัน ต้องฝากให้คนอื่นช่วยดูแลให้
ที่มา :  คู่มือนกกรงหัวจุก โดย เอกชัย พฤกษ์อำไพ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดปัตตานี           สำนักพิมพ์ฐานเกษตรกรรม 2546

การเลี้ยงดูนกกรงหัวจุกระยะต่างๆ


การเลี้ยงดูนกกรงหัวจุกระยะต่างๆ "
การเลี้ยงดูนกกรงหัวจุกระยะต่างๆ
นกกรงหัวจุกเป็นนกที่มีอายุยืน จากการสอบถามผู้ที่เคยเลี้ยงนกกรงหัวจุกตั้งแต่ลูกนก จนมีอายุ 18 ปี นกกรงหัวจุกก็จะตาย แต่ถ้านกกรงหัวจุกที่อยู่ในธรรมชาติ มีอาหารการกินดีไม่ขาดแคลน ก็อาจจะมีอายุไ
นกกรงหัวจุกเป็นนกที่มีอายุยืน จากการสอบถามผู้ที่เคยเลี้ยงนกกรงหัวจุกตั้งแต่ลูกนก จนมีอายุ 18 ปี นกกรงหัวจุกก็จะตาย แต่ถ้านกกรงหัวจุกที่อยู่ในธรรมชาติ มีอาหารการกินดีไม่ขาดแคลน ก็อาจจะมีอายุได้มากกว่านี้ก็เป็นไปได้ สำหรับการเลี้ยงนกกรงหัวจุกระยะต่างๆ มีดังนี้
การเลี้ยงดูลูกนกเกิดใหม่ ลูกนกที่เกิดใหม่ ก็จะมีวิธีการให้อาหารคือ 1.ใช้อาหารลูกไก่ ทำให้ละเอียด ป้อนให้ลูกนกกิน 2.ใช้กล้วยน้ำว้า ทำให้เละป้อนให้ลูกนกกิน 3.ใช้หนอนนก ป้อนให้ลูกนกหิน การป้อนก็จะป้อนสลับกันไป ถ้าหากลูกนกยังร้องอยู่ในขณะป้อนก็แสดงว่าลูกนกยังไม่อิ่ม ก็ให้ป้อนอาหารจนกว่าลูกนกจะหยุดร้อง หรือดูว่าลูกนกกินอาหารมากพอสมควรแล้วก็หยุดป้อน เพราะถ้าลูกนกกินมากเกินไป ท้องจะแน่นจุดเสียดได้ นอกจากป้อนอาหารแล้ว ต้องป้อนน้ำให้ลูกนกด้วยและหัดให้ลูกนกกินอาหารเองบ้าง จนอายุ 15-20 วัน ขึ้นไปก็สามารถแยกลูกนกไปไว้ในกรงเดี่ยว และให้แขวนใกล้ลูกนกตัวอื่นๆ ด้วย เพื่อไม่ให้ลูกนกตื่นกลัว เพราะจะรู้ว่ามีเพื่อนอยู่ข้างๆ
การเลี้ยงดูลูกนกในกรง ลูกนกในกรงเริ่มกินอาหารเองได้แล้ว และมีสุขภาพแข็งแรงพออายุได้ประมาณ 40 วัน นกก็จะมีขนขึ้นเต็ม สีขนของนกก็จะเปลี่ยนเป็นสีเทา พอนกอายุได้ 100-120 วันขึ้นไป นกก็จะเริ่มผลัดขน ขนก็จะเปลี่ยนเป็นสีขาวสีน้ำตาล ต่อมาจะมีขนแดงใต้ตาและมีแก้มสีขาว มีแถบดำที่เรียกว่าสร้อยคอ ขนใต้หางจะเปลี่ยนเป็นสีแดงส้ม ระยะนี้ต้องให้อาหารนกกินให้สมบูรณ์
การเลี้ยงนกหนุ่ม เมื่อนกกรงหัวจุกผลัดขนจนเป็นนกหนุ่มที่สมบูรณ์แล้ว ส่วนต่างๆ ของร่างกายก็จะแข็งแรงเจริญเติบโตและสมบูรณ์ดี เมื่อนกเป็นหนุ่มจนถึงนกที่มีอายุมาก ในปีหนึ่งๆ นกกรงหัวจุกจะมีการผลัดขนปีละ 1 ครั้งขึ้นไป ขณะผลัดขนนกกรงหัวจุกจะคัน บางตัวก็ไซร้ขนออก บางตัวก็จิกขนให้ร่วง เมื่อขนจะร่วงนกกรงหัวจุกจะไม่สวย ควรจะนำนกไปไว้ในกรงผลัดขน ซึ่งความกว้าง ความยาว และความสูงของกรงจะใหญ่กว่ากรงเลี้ยงธรรมดาโดยเฉพาะจะดีที่สุด หรืออาจจะไปปล่อยไว้ในกรงพักนกใหญ่ก็ได้ ในช่วงผลัดขน นกกรงหัวจุกจะไม่ร้อง ถ้ร้องก็ร้องนิดหน่อย จนกว่าจะผลัดขนหมดก็จะเริ่มร้อง ซึ่งนกหนุ่มนี้จะร้องเพลงฟังได้ เมื่อมีอายุประมาณ 1 ปี
การเลี้ยงนกกรงหัวจุกที่อ้วน ผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุก เมื่อเริ่มเลี้ยงใหม่ๆ ก็จะให้อาหารการกินแก่นกเป็นอย่างดี กลัวนกจะหิว เพราะนกเมื่อได้มาใหม่จะผอม ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสาเหตุให้นกอ้วนไป เพราะนกกรงหัวจุกที่อ้วน จะขี้เกียจกระโดดออกกำลังกาย และขี้เกียจร้อง ดังนั้น จึงต้องลดความอ้วนของตัวนกลง โดยการให้อาการให้น้อยลง สิ่งที่ต้องให้น้อยหรือหยุดการให้นกกิน ได้แก่ กล้วยน้ำว้า และอาหารเม็ด และหนอนนก เพราะอาหารพวกนี้จะมีโปรตีนและไขมันสูง ควรงดการให้สักระยะหนึ่งจนกว่านกจะผอมลง ต้องให้อาหารจำพวก มะละกอสุก ลูกตำลึงสุก เพื่อให้นกถ่ายอุจจาระบ่อยๆ และให้นำนกไปตากแดดมากขึ้น เพื่อให้นกได้กระโดดไปมาเป็นการออกกำลังและร้อง จนกว่านกจะผอมเป็นปกติ นกก็จะคล่องแคล่วว่องไว สดใสแข็งแรง และร้องเพลงได้ดี
ที่มา :  คู่มือนกกรงหัวจุก โดย เอกชัย พฤกษ์อำไพ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดปัตตานี           สำนักพิมพ์ฐานเกษตรกรรม 2546

^^อยากรู้ว่า ลูกนก 95 และลูก 75 คืออย่างไร

- จาก นกสยาม ค่ะ
จริงๆเคยอธิบายไปแล้ว แต่กะทู้ไหนผมจำไม่ได้แล้ว ง่ายครับ
ลูก 50 คือ พ่อนกสายพันธุ์นึง + แม่นกอีกสายพันธุ์นึง โดยส่วนมากจะเอาพ่อนกเป็นนกปรอดสายอื่นที่ไม่ใช่หัวจุก หลักๆจะมีหน้านวล ดอกแตง และหัวเขม่า ลูกที่ออกมาได้เป็นลูกผสม 50% ระหว่างนกปรอด 2 สายพันธุ์ ที่นิยมเอาตัวผู้ปรอดสายอื่นเพราะต้องการเอาจุดแข็งของนกสายนั้นอย่างเช่นหน้านวล จะเป็นนกเสียงใหญ่ แกนโตๆๆ ดอกแตง หัวเขม่านิยมเอามาทำนกนับดอก 

Generation ถัดมาจะเป็นลูก 75 คือเอาลูกนก 50 มาผสมกับหัวจุกแท้ 100% ลูกที่ได้ก็จะเป็นลูก 75
ถัดมาก็ 87.5 เหมือนเดิม เอาลูก 75 มาเข้ากับจุกแท้เลือด 100 จะได้ลูก 87.5 
ชั้นที่ใกล้เคียงหัวจุกที่สามารถนำลงแข่งได้คือลูก 93.75 หรือที่เรียกกันว่าลูก 95 ก็มาจาก ลูก 87.5 + จุกเลือดร้อยครับ

ตัวนี้ลูก 50 หัวเขม่า

F1 = 50
F2 = 75
F3 = 87.5
F4 = 95 (93.5)

ตัว F ย่อมาจาก Filial แปล การผสมข้าสายพันธุ์
1 หมายถึงชั้นที่เริ่มทำการผสมข้าสายพันธุ์ครับ

ประวัติ นกกรงหัวจุก (จากวิกิพีเดีย)


นกปรอดหัวโขน 


นกปรอดหัวโขน หรือ นกปรอดหัวจุก หรือที่นิยมเรียกกันว่า นกกรงหัวจุก (อังกฤษ: Red-whiskered bulbul; พายัพ: นกปิ๊ดจะลิว; ชื่อวิทยาศาสตร์Pycnonotus jocosus) เป็นนกที่อยู่ในวงศ์นกปรอด (Pycnonotidae) ซึ่งอยู่ด้วยกันทั้งหมด 109 ชนิด สำหรับในประเทศไทยพบได้ 36 ชนิด
นกปรอดหัวโขนเป็นนกขนาดเล็ก ขนาดโตเต็มที่ประมาณ 20 เซนติเมตร ที่มีสีสันสวยงามและเสียงร้องไพเราะ ที่แก้มและคอจนถึงหน้าอกจะมีสีขาวและมีสีแดงเป็นเส้นอยู่ข้างหูลงมาถึงหน้าอกเหมือนเป็นเส้นแบ่งขนสีขาวกับสีดำที่มีอยู่ทั่วทั้งตัวขนส่วนหัวจะร่วมกัน เป็นเหมือนหน่อตั้งอยู่บนหัวสูงขึ้นไปเหมือนหัวโขน อันเป็นที่มาของชื่อ ใต้ท้องมีขนสีขาว พบกระจายอยู่ทั่วไปในภูมิภาคเอเชียใต้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จนถึงเอเชียตะวันออก
พบได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ตั้งแต่ยอดเขาสูง ป่าที่ราบต่ำ จนถึงทุ่งหญ้า ชายป่า และเขตที่ใกล้กับชุมนุมมนุษย์
มีชนิดย่อยทั้งหมด 9 ชนิด ดังนี้[2][3]
นกปรอดหัวโขน เป็นที่นิยมในแง่ที่เป็นสัตว์เลี้ยง ที่เลี้ยงเพื่อฟังเสียงร้องอันไพเราะ และเพื่อการแข่งขันเสียงร้อง เช่นเดียวกับนกเขาชวา(Geopelia striata) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ติดกับมาเลเซีย คือ นราธิวาส,ปัตตานียะลา ซึ่งการเลี้ยงนกชนิดนี้เป็นเหมือนหนึ่งในวัฒนธรรมและวิถีการดำรงชีวิตของผู้คนที่นั่น นกปรอดหัวโขนหากได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกต้อง สามาถมีอายุยืนนานได้ถึง 11 ปี และนกตัวใดที่มีเสียงร้องไพเราะและได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดแข่งขัน อาจมีสนนราคาถึงหลักล้านบาท
ปัจจุบัน นกปรอดหัวโขน เป็นสัตว์ที่มีรายชื่ออยู่ในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่มีความพยายามของผู้ที่นิยมเลี้ยงผลักดันให้เป็นสัตว์ที่เลี้ยงได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งประเด็นนี้มีทั้งผู้ที่เห็นและคัดค้าน[4]เนื่องจากจนถึงปัจจุบันนกปรอดหัวโขนที่เลี้ยงไว้เกือบทั้งหมดมาจากการจับจากธรรมชาติทั้งสิ้น ไม่ได้มาจากการเพาะเลี้ยงอย่างที่อ้างกัน ซึ่งการจับนกจากธรรมชาติเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นกชนิดนี้สูญพันธ์ไปจากธรรมชาติในภาคใต้ของประเทศไทย


Taxonomy

The Red-whiskered Bulbul was one of the many species originally described by

 Carl Linnaeus in 1758 in his Systema Naturae. He placed it along with the shrikes under Lanius.

Local names include Turaha pigli-pitta in TeluguSipahi bulbul in BengaliKrong-hua-juk (กรงหัวจุก) in Thai,
 and Phari-bulbul or Kanera bulbu in Hindi.[2]

Subspecies

the populations found across their range show a range of plumage variations and some of these

 are recognized as subspecies:[3][4]

  • jocosus, the nominate form is found in Hong Kong[5]
  • fuscicaudatus of peninsular India has nearly complete breast band and no white tip to tail
  • abuensis of northwestern India (type locality Mount Abu[6]) is pale and has a broken breast band and no white tip to tail
  • pyrrhotis of the terai is pale above with white tail tips and widely separated breast band
  • emeria of Eastern peninsula and Ganges Delta is warm brown above with a slim bill and a long crest (also introduced into Florida[7])
  • whistleri is found in the Andaman Islands and has a warm brown above, a heavier bill and a shorter crest than emeria
  • monticola is found in northeastern India and has darker upperparts than pyrrhotis
  • pattani is found in Thailand
  • peguensis not always recognized was described from southern Burma[8]

Description

The Red-whiskered Bulbul is about 20 centimetres (7.9 in) in length.

 It has brown upper-parts and whitish underparts with buff flanks and a

 dark spur running onto the breast at shoulder level. It has a tall pointed black crest,

 red face patch and thin black moustachial line. The tail is long and brown with white

 terminal feather tips, but the vent area is red.

The loud and evocative call is a sharp kink-a-joo
 (also transcribed as pettigrew or kick-pettigrew or pleased to meet you)
 and the song is a scolding chatter. It is more often heard than seen, but will
often perch conspicuously especially in the mornings when they call from the tops
of trees. The life span is about 11 years.

Hybrids have been noted in captivity
 with Pycnonotus caferPycnonotus leucotisPycnonotus xanthopygos,
 Pycnonotus melanicterus and Pycnonotus leucogenys[10] and leucism
has been recorded.[11] Several avian malaria parasites have been described from the species.[

Distribution and habitat


This is a bird of lightly wooded areas, more open country with bushes
 and shrubs, and farmland. Irruptions have been noted from early times
 withThomas C. Jerdon noting that they "periodically visiting Madras and
 other wooded towns in large flocks."[2]
It has established itself in Australia, Los AngelesHawaii,[13] and Florida
 in the United States, and in the MauritiusAssumption Island[15]
andMascarene Islands.[16][17] In Florida, it is only found in a small area,
 and its population could be extirpated easily.[18]
The Red-whiskered Bulbul was introduced by the Zoological and
Acclimatization Society in 1880
 to Sydney, and became well established across the suburbs by 1920,
 and continued to spread slowly to around 100 km away. It is now also found in'
 suburban Melbourne and Adelaide, although it is unclear how they got there